Root Android
วันเสาร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2559
Root โดยใช้ Kingroot
Root with Kingroot
วันนี้เราจะมาสอนวิธีรูท android โดยใช้แอป kingroot นะครับ
แอปนี้อาจช่วยคนที่ใช้แอปรูทตัวอื่นไม่ได้นะครับ
แอปนี้เป็นแบบ one click นะครับก้คือกดครั้งเดียวแล้วรอก็เสร็จ
ขั้นแรกก็ไปโหลดมาเลย--> Kingroot
พอโหลดเสร็จแล้วก็ติดตั้งเลยครับ
ต่อมาก็เข้าแอปไปเลยครับ
พอเข้ามาก็จะได้ประมาณนี้นะครับ มันจะบอกว่าเครื่องคุณยังไม่รูทให้กดตรงรูปนั้้นเลยครับ
พอกดเสร็จคราวนี้ก็ต้องรอครับภาวนารอ
ใครสำเร็จก็จะได้รูปแบบเนี่ยครับ
พอรูทเสร็จแล้วก็จะได้แอปนี้มานะครับ มันเป็นตัวจัดการรูทน่ะครับ
พอรูทเสร็จแนะนำให้ restart เครื่องนะครับ
เท่านี้ก็เรียบร้อยแล้วครับการรูทของเรา
แต่สำหรับบางเครื่องก้ทำไม่ได้นะครับ
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่ต้องการรูทนะคับ
วันศุกร์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2559
วิธีเพิ่มประสิทธิภาพ Android 12 ประการ
ขอขอบคุณกระปุกดอทคอม
เชื่อว่าใครหลายคนที่ใช้แอนดรอยด์มาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว อาจพบว่าตัวเครื่องนั้นทำงานช้าลง หรืออาจกินแบตเตอรี่มากกว่าตอนที่เพิ่งซื้อมาใหม่ ๆ ซึ่งมีสาเหตุมาจากการที่เราดาวน์โหลดแอพฯ มาลงเครื่องมากขึ้น หรือเปิดแอพฯ ให้ทำงานทิ้งไว้หลาย ๆ แอพฯ รวมทั้งสาเหตุอื่น ๆ อีกมากมาย วันนี้กระปุกดอทคอมจึงได้นำวิธีการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของแอนดรอยด์ให้ไหลลื่นขึ้นกว่าเดิมมาแนะนำทั้ง 10 ข้อด้วยกันครับ (ภาพประกอบเป็นของสมาร์ทโฟน Sony Xperia)
1. ทำความรู้จักอุปกรณ์ของเราก่อน
อย่างแรกที่ควรทำเลยก็คือทำความรู้จักกับอุปกรณ์แอนดรอยด์ของเรากันก่อน ว่ามีสเปคและคุณสมบัติอย่างไรบ้าง ซึ่งควรเลือกใช้แอพพลิเคชั่นที่เหมาะสมกับสเปคของเครื่อง เพื่อไม่ให้แอพฯ นั้นกินทรัพยากรเครื่องมากเกินไปนั่นเอง
2. อัพเดทแอนดรอยด์เป็นเวอร์ชั่นใหม่สุดเสมอ
แอนดรอยด์ได้มีการพัฒนาและอัพเดทอยู่เป็นระยะ ๆ ดังนี้เราจึงควรอัพเดทให้เป็นเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดอยู่เสมอ ๆ เนื่องจากแอนดรอยด์ที่ถูกพัฒนาเป็นเวอร์ชั่นใหม่ ๆ นั้นได้มีการปรับปรุงให้สามารถใช้งานได้อย่างสะดวกรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้นเรื่อย ๆ
3. ลบแอพฯ ที่ไม่ได้ใช้งานออก
ทุก ๆ แอพฯ ที่เราได้ลงไว้จะใช้พื้นที่หน่วยความจำในเครื่อง และอาจกินทรัพยากรเครื่องด้วยหากแอพฯ นั้นเปิดทำงานแบบอัตโนมัติ ซึ่งเป็นสาเหตุให้เครื่องมีอาการอืดและทำงานช้าลง เราจึงควรเลือกลบ (Uninstall) แอพฯ ที่ไม่ได้ใช้งานหรือไม่จำเป็นออกไป และเลือกลงเฉพาะแอพฯ ที่ต้องใช้งานจริง ๆ เท่านั้น
4. ปิดการทำงานแอพฯ ที่ไม่จำเป็น
ด้วยฟีเจอร์ Performance assistant ที่เพิ่มเข้ามาในแอนดรอยด์ 4.0 ICS นี้ สามารถให้คุณเลือกปิดการทำงาน (Disable) แอพฯ ที่คุณไม่ได้ใช้งานช่วงระยะเวลาหนึ่ง แต่ต่างกับการลบแอพฯ ออกจากเครื่องตรงที่ตัวแอพฯ ยังคงอยู่ในเครื่องเหมือนเดิม เพียงแค่ไม่แสดงในหน้า Home Screen หรือเมนูเลือกแอพฯ เท่านั้น ซึ่งสามารถเปิดให้ทำงานใหม่ได้เมื่อต้องการกลับมาใช้งานแอพฯ นั้น ๆ
5. อัพเดทแอพฯ อย่างสม่ำเสมอ
ทุก ๆ แอพฯ ที่ดาวน์โหลดจาก Google Play มักมีการอัพเดทจากผู้พัฒนาอยู่เรื่อย ๆ ซึ่งเราควรอัพเดทแอพฯ ให้เป็นเวอร์ชั่นใหม่สุดอยู่เสมอ ๆ เนื่องจากผู้พัฒนาจะปรับปรุงและแก้ปัญหาต่าง ๆ ของแอพฯ ให้มีประสิทธิภาพในการใช้งานที่ดีขึ้น และอาจทำงานได้เร็วขึ้นกว่าเดิมด้วย
6. เลือกใช้การ์ดหน่วยความจำความเร็วสูง
ถึงแม้สมาร์ทโฟนจะมีหน่วยความจำในตัวเครื่องอยู่แล้ว แต่เมื่อเราใช้งานไปจนเหลือพื้นที่น้อยลง อาจส่งผลให้เครื่องทำงานช้าลงได้ ซึ่งการใส่การ์ดหน่วยความจำ (Memory Card) เพิ่มนั้นย่อมช่วยแก้ปัญหานี้ได้ เพราะการมีเนื้อที่หน่วยความจำว่างมากขึ้น จะช่วยให้ระบบสามารถทำงานได้เร็วขึ้นไม่มากก็น้อย โดยให้เลือกการ์ดหน่วยความจำที่มีคุณภาพดีและความเร็วสูง เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพในการใช้งานที่มากขึ้น
7. ใช้ Widget ให้น้อยลง
Widget ที่เป็นลูกเล่นต่าง ๆ เอาไว้วางบนหน้าจอ Home Screen นั้นจะทำงานตลอดเวลา ต่างกับแอพพลิเคชั่นทั่วไปที่มักทำงานเฉพาะตอนที่เราเปิดใช้เท่านั้น ซึ่งการวาง Widget ไว้บนหน้าจอ Home Screen มาก ๆ จะกินทรัพยากรเครื่องเยอะและส่งผลให้เครื่องทำงานได้ช้าลง เพราะฉะนั้นจึงควรเลือกใช้ Widget ให้เหมาะสมกับสเปคของเครื่อง และใช้เท่าที่จำเป็นเท่านั้น
8. เลี่ยงการใช้ Live Wallpaper
Live Wallpaper หรือภาพพื้นหลังแบบเคลื่อนไหวได้นั้น เป็นที่ถูกอกถูกใจของผู้ใช้แอนดรอยด์จำนวนมาก เนื่องจากมันดูสวยงามและเพิ่มความหรูหราให้กับอุปกรณ์แอนดรอยด์ได้ดีเลยทีเดียว แต่ในทางกลับกัน Live Wallpaper ก็เป็นฟีเจอร์หนึ่งที่กินทรัพยากรเครื่องและแบตเตอรี่ไม่ใช่น้อยเช่นกัน ซึ่งหากเรารู้สึกว่าเครื่องทำงานช้า อยากให้ทำงานเร็วขึ้น หรือแบตเตอรี่ใช้นานขึ้น ก็ควรเลี่ยงไปใช้ภาพพื้นหลังแบบปกติแทน
9. ใช้ระบบ Auto Sync เท่าที่จำเป็น
ระบบ Auto Sync ของแอนดรอยด์เป็นสิ่งที่มีประโยชน์มาก ๆ เนื่องจากมันสามารถเชื่อมต่อกับเซิฟเวอร์ของกูเกิลเพื่อคอยรายงานแจ้งเตือนการอัพเดทต่าง ๆ ให้เราทราบทันทีได้ตลอดเวลา เช่น ได้รับอีเมลใหม่, ได้รับข้อความใหม่, อัพเดทแอพฯ เวอร์ชั่นใหม่ ฯลฯ แต่มันก็มีข้อเสียเหมือนกัน เพราะเครื่องจะทำงานตลอดเวลาเพื่อเชื่อมต่อรับข้อมูลอัพเดทเป็นระยะ ๆ ซึ่งหากเราใช้งานแอพฯ อื่น ๆ ไปพร้อม ๆ กันก็อาจทำให้เครื่องทำงานช้าลงได้ รวมทั้งยังกินแบตเตอรี่มากขึ้นอีกด้วย
10. ปิดการใช้อินเทอร์เฟซแบบเคลื่อนไหว
อินเทอร์เฟซแบบเคลื่อนไหว (Animation) คือการเคลื่อนไหวของอินเทอร์เฟซเวลาที่เราใช้นิ้วลากหรือเลื่อนเมนูหรือแถบต่าง ๆ บนหน้าจอ ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่กินทรัพยากรเครื่องไม่ใช่น้อยเลย โดยถ้าเราปิดฟีเจอร์นี้ เวลาที่เราลากนิ้วไปมาจะไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ บนหน้าจอ แต่ภาพจะตัดไปที่เมนูหรือหน้าจออื่น ๆ ทันทีเลย ถึงแม้จะดูไม่ค่อยสวยงามสักเท่าไหร่ แต่มันก็ทำให้เครื่องทำงานได้เร็วขึ้นพอสมควรเลย
11. ใช้แอพฯ ประเภท Task Killer
แอพฯ ประเภท Task Killer หรือ Task Manager นั้นมีความสามารถในการปิดแอพฯ ที่เปิดทำงานทิ้งไว้โดยไม่จำเป็น ซึ่งสามารถตั้งเป็นแบบอัติโนมัติได้ด้วย ถือเป็นแอพฯ ที่มีประโยชน์และควรมีติดเครื่องไว้มาก ๆ เลยทีเดียว
12. เลือกใช้แอพฯ ที่มีขนาดเล็ก
แอพฯ ประเภทเดียวกัน อาจมีขนาดที่ไม่เท่ากันก็ได้ บางแอพฯ อาจมีขนาดเล็ก แต่บางแอพฯ ก็อาจมีขนาดใหญ่กว่า ซึ่งแอพฯ ที่มีขนาดใหญ่จะส่งผลให้กินทรัพยากรเครื่อง โดยเฉพาะแรม ในขณะใช้งานมากกว่าแอพฯ ที่มีขนาดเล็ก เพราะฉะนั้นเราจึงควรเลือกใช้แอพฯ ที่มีขนาดเล็กกว่าในกรณีที่แอพฯ มีคุณสมบัติเหมือนหรือใกล้เคียงกัน และควรเลือกใช้แอพฯ ที่มีฟีเจอร์เท่าที่เราต้องการใช้ก็พอ ไม่จำเป็นต้องใช้แอพฯ ขนาดใหญ่ที่มีฟีเจอร์มากเกินไปทั้ง ๆ ที่เราไม่ได้ใช้
ด้วยคำแนะนำทั้ง 12 ข้อนี้ จะช่วยอุปกรณ์แอนดรอยด์ของท่านสามารถทำงานได้รวดเร็วและราบรื่นมากยิ่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลยล่ะ ก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับชาวแอนดรอยด์ทั้งหลายไม่มากก็น้อยนะครับ ^_^
วันพฤหัสบดีที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2559
สุดยอดแอพ Android สำหรับเครื่องที่่ root แล้ว
7 Best Android Root Apps for Rooted Android Phone
let’s checkout the 7 Must Have Rooted Android Apps to get the most out of your rooted android device.
1. TITANIUM BACKUP
2. SUPERUSER – SUPERSU – SUPERUSER (CLOCKWORKMOD)
3. ROM MANAGER
4. BUSYBOX INSTALLER
5. GREENIFY *ROOT: RENEW MY PHONE
6. ROOT EXPLORER
7. ADAWAY
วันอาทิตย์ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558
Fing-Network tool
Fing-Network Tool
แอพที่จะช่วยให้คุณรู้ว่าใครใช้อินเตอร์
เน็ตของคุณบ้าง แอพนี้สามารถตรวจ
Mac Address ของคนที่ใช้อินเตอร์เน็ต
ของคุณ สามารถตรวจชื่อรุ่นโทรศัพท์
สามารถรู้ IPAddressของคนที่ใช้เน็ต
ของเราได้ และมีฟังชั่นหลายฟังชั่น เช่น Ping,Traceroute,Wake on lan,Scan
Service แอดมินก็ใช้นะครับสะดวกดี
สามารถDownloadฟรีได้ที่ Play store
ขอบคุณครับ
ปล.ไม่ต้อง Root เครื่องนะครับ
Dsploit แอพแฮกเน็ตเวิร์ค
Dsploit
คือแอพที่เอาไว้แฮกเครื่องของผู้อื่น แต่เฉพาะในเครือข่ายเดียวกันนะครับพูดง่ายๆก็ใช้เน็ตเดียวกันนั้นแหละ
แอพนี้มีความสามารถหลายอย่างยกตัวอย่างเช่น ดักจับพาสเวิดเอย แฮก เซสชั่นเอย(รุว่าเค้าเข้าเว็บอะไร) แทรกรูป(เอารูปเข้าไปในเครื่องเป้าหมายมันจะทำให้เว็บที่เป้าหมายดูเปลี่ยนรูปเป็นรูปที่เราเลือก)
พอแค่นี้ก่อนละกันให้เพื่อนๆได้ลองใช้ดูเพราะผมก็ยังใช้ไม่ค่อยเป็นเท่าไหร่
เเอพสามารถโหลดใน aptoide
ต้อง root ก่อนนะคับ
หน้าตาแอพ